ล่องเรือ Caribbean

4

February 19, 2012 by Lin

ต่อเนื่องจากที่ผมให้พ่อแม่ไปล่องเรือที่ Alaska (บทความเดิม) ปรากฎว่าแกชอบมากทั้งสองท่าน จนเอ่ยปากว่าอยากจะล่องเรืออีก

นอกจาก Alaska แล้ว ยังมีอีกหลาย ๆ เส้นทางที่น่าสนใจสำหรับการล่องเรือมาก แน่นอนว่าแคริบเบียน ก็เป็นหนึ่งในนั้น ประกอบกับในเดือนหน้า ผมต้องมีธุระไปประชุมที่ฟลอริด้า ผมเลยจัดให้ทั้งสองท่านไปล่องเรือ ซึ่งกว่าจะหาข้อมูลมาได้ก็ยุ่งยากพอสมควร เพราะเริ่มต้นจากไม่มีไอเดียอะไรเลย แคริบเบียน ในหัวผมตอนต้นมีเพียงภาพโจรสลัด Pirates of the Caribbean แจ๊ค สแปโรว์ หรือว่าเครื่องเล่นหนึ่งในดิสนีย์ที่ผมชอบ กว่าจะได้ข้อมูลครบพอเพียงสำหรับการตัดสินใจได้ก็ใช้เวลาพอดูทีเดียว

Princess Cruise ใน Caribbean

แคริบเบียน เป็นกลุ่มเกาะน้อยใหญ่เรียงตัวมีรูปร่างคล้ายเป็นวงพระจันทร์ ระยะทางยาวกว่า 3,000 กิโลทีเดียว หมู่เกาะส่วนมากวางตัวอยู่บนแคริบเบียนเพลท นอกจากคิวบา หรือเฮติ ที่เป็นจุดรอยต่อกับเพลทอเมริกาเหนือ จึงมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เป็นบริเวณที่กองทัพเรือจากยุโรปมาตามหาอาณานิคม มาค้นหาโลกใหม่ “New World” แต่จะเป็นสเปนที่มีอิทธิพลมากกว่า (โคลัมบัส ค้นพบดินแดนแถบนี้ และคิดว่าเป็นตะวันตกของอินเดีย เลยตั้งชื่อว่า West Indies) และจะพบว่าหลายประเทศ ยังคงอยู่ใต้อาณานิคมของประเทศในยุโรป และตั้งชื่อตัวเองว่า Antilles ซึ่งมีรากฐานมาตั้งแต่ช่วงค้นหาโลกใหม่ แปลว่าดินแดนลึกลับนี่เอง

อาณานิคมในช่วงปีคศ. 1700

การล่องเรือในแคริบเบียน เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากในหมู่คนอเมริกันและยุโรป เนื่องจากจะหาบรรยากาศแบบ ทะเล หาดทราย แสงแดด ได้ยาก และแคริบเบียนตอบโจทย์ได้ทั้งหมด พอร์ตที่จะเริ่มต้นล่องเรือ มีหลายที่ แต่หลัก ๆ คือ Fort Lauderdale และ Port of Miami ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน หรือจะมีแถว ๆ New Orleans, Tampa ซึ่งทั้งหมดอยู่ใน Florida

อันที่จริง นอกจากแคริบเบียน ยังมีหมู่เกาะบาฮามาส ซึ่งอยู่ใกล้กับฟลอริดามากกว่า คนที่ไม่อยากล่องเรือเป็นระยะเวลานาน อาจจะเลือกไปบาฮามาส ซึ่งใช้เวลาแค่ 2-3 วันก็เพียงพอ หมู่เกาะบาฮามาส ยังได้รับความนิยมสำหรับเส้นทางแคริบเบียนอีกด้วย เนื่องจากเป็นทางผ่าน และเจ้าของเรือหลายสายก็มีเกาะส่วนตัวสำหรับลูกค้าตนเองในหมู่เกาะบาฮามาส เช่น Princess มี Princess Cay หรือ Holland America มี Half moon Cay เป็นต้น

เส้นทางแคริบเบียนจะแบ่งออกเป็นสามเส้นทางหลัก ๆ คือ เส้นทางตะวันตก (Western Caribbean) เส้นทางตะวันออก (Eastern Caribbean) เส้นทางใต้ (Southern Caribbean) ซึ่งจะมีบรรยากาศแตกต่างกันพอสมควร

เส้นทางเดินเรือโดยสังเขบ

เส้นทางตะวันออก พอร์ตที่สายเรือนิยมแวะคือ St. Martin, St. Thomas, San Juan, Grand Turk (รวมถึงเกาะบริเวณบาฮาสมาส เช่น Nausau ซึ่งเป็นทางผ่าน) และยังมีอีกหลายเกาะ เพราะเส้นทางนี้ผ่านเกาะนับพันเกาะ เป็นเส้นทางแรก ๆ ที่เกิดขึ้น สำหรับการล่องแคริบเบียน บรรยากาศบ้านเมืองจะออกแนวยุโรป เนื่องจากเป็นอาณานิคมเก่า เกาะหลายเกาะมีอิทธิพลทั้งดัชน์ สเปน ฝรั่งเศส อังกฤษอยู่ในเกาะเดียวเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งเนื่องจากบริเวณนี้เป็นจุดเชื่อมต่อกับยุโรปได้สะดวกในสมัยอาณานิคม (มีการซื้อขายยาสูบ น้ำตาล เครื่องเทศ ผ่านเมืองท่าเหล่านี้) เป็นศูนย์กลางการเดินทางจากอเมริกาใต้และอเมริกากลาง อย่างโคลัมบัส ก็แวะบริเวณนี้หลายครั้งในช่วงที่แกสำรวจโลกใหม่ คนที่ชอบเส้นทางนี้จะชอบบ้านเมืองที่ดูเจริญซักนิดนึง มีแหล่งช็อปปิ้งปลอดภาษีที่มาตรฐานและมีชื่อเสียง ได้รับกลิ่นอายของป้อมปืน ผังเมืองหรือประวัติศาสตร์ในช่วงคริสศตวรรษ 15-17 ที่อัดแน่น ทางเลือกนี้ย่อมเป็นทางเลือกที่ดี พอร์ตที่เห็นคนชอบ ๆ กัน (รวมถึงตัวผมเอง) คือ St. Martin, San Juan เพราะมีเมืองที่สวย จอดท่าเรือก็สามารถทำกิจกรรมเดินชมเมืองได้ทันที

ป้อมปราการเก่าใน San Juan

St. Martin ยังมีเครื่องบินลงหลายสาย อารมณ์แบบลงปุ๊ปเดินมาชายหาดได้เลย

เส้นทางตะวันตก พอร์ตที่สายเรือนิยมแวะคือ Belize, Roatan, Grand Cayman, Falmouth/Jamaica, Costa Maya, Cozomel เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เกิดขึ้นภายหลัง แต่ได้รับความนิยมสูงขึ้นตามลำดับ เนื่องจากมีกิจกรรมที่หลากหลายกว่าเส้นทางตะวันออก (ที่มีแต่ทะเลและช็อปปิ้ง) กิจกรรมที่เพิ่มขึ้น คือการผจญภัยถ้ำ (Caving) อารมณ์คล้าย ๆ กับการเข้าถ้ำดูหินย้อยในบ้านเรา แต่เค้าจะออกแนวผจญภัยและธรรมชาติกว่า (คนละอารมณ์กับถ้ำที่ฉายไฟหลายหลากสีเหมือนงานวัดในเมืองจีน) และอีกอย่างหนึ่งคือบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณแหลม Yucatan ซึ่งมีอารยธรรมชนเผ่ามายาหนาแน่น กิจกรรมไปเยี่ยมชนปิรามิดของชนเผ่ามายา เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะของมายา

Tulum ใน Mexico

Chichen Itza ปิรามิดที่ได้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

มายาเป็นชนเผ่าที่เป็นที่สนใจขึ้นเนื่องจากการทำนายปี 2012 หรือปีสุดท้ายของปฏิทินมายา แต่อันที่จริงศิลปะมายาสวย ปิรามิดไม่ใหญ่เหมือนอียิปต์ แต่มีรูปแบบเฉพาะตัว มีความลึกลับไม่แพ้อียิปต์ ถ้าแวะ Cozomel บางคนก็อาจจะทิ้งเวลาที่จะสำรวจเกาะ ข้ามเรือเร็วไป site ที่ Tulum แทน เพื่อไปดูปิรามิดริมชายหาด หรือยังมี site อีกจำนวนไม่น้อยในประเทศ Belize หรือ Port ที่เพิ่งได้รับการพัฒนาใหม่อย่าง Costa Maya ใน Mexico น่าเสียดายที่ปิรามิดดัง ๆ อย่าง Chichen Itza อยู่ห่างจากท่าเรือมาก จึงไม่สามารถทำเป็น Day Trip ได้

นอกจากนี้ ยังแวะประเทศบางประเทศในละตินอเมริกา เช่น Roatan บรรยากาศในละตินอเมริกา จะแตกต่างจากหมู่เกาะ Antilles ในแคริบเบียนตะวันออกโดยสิ้นเชิง ประเทศยากจนกว่า บ้านเรือนออกแนวบ้าน ๆ มากกว่า ระบบพื้นฐานสะดวกสบายน้อยกว่า เรียกได้ว่า ถ้าคนชอบความเจริญ มาเส้นทางนี้ เหมือนกับมาประเทศโลกที่สาม แต่จะได้ความรู้สึกผจญภัยมากกว่า และหลายสายเรือ ก็ยังแวะเกาะกลางแคริบเบียนอย่าง Jamaica หรือ Grand Cayman (Royal Caribbean แวะ Lambadee ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวที่ได้รางวัลอยู่บน Haiti)

Great Blue Hole ใน Belize

Lambadee Port ส่วนตัวของ Royal Caribbean ในเฮติ (มีรั้วกั้น ถ้าข้ามรั้วไปจะเจอประเทศเฮติซึ่งชีวิตต่างกันราวฟ้าดิน)

ส่วนเส้นทางใต้นั้นไม่ค่อยมีคนพูดถึงมาก เพราะเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างไกล ถ้ามีเวลา Cruise น้อย (7-9วัน) จะแวะไม่ได้กี่พอร์ต ส่วนใหญ่จะต้องใช้เวลาเดินทางอยู่บนเรือ (เส้นทางตะวันออกและตะวันตกอยู่บนเรือ 3-4วัน ต่อการเดินเรือ 8 วัน ถ้าเส้นทางใต้ใช้เวลา 5 วัน) พอร์ตที่ลงก็จะลงเช่น St. Kitt, Aruba, Grenada ซึ่งมีกลิ่นอายผสม ๆ ระหว่าง Eastern กับ Western คือไม่เจริญสุดขีด แต่ก็ไม่ดิบเกินไป เส้นทางนี้จะเหมาะกว่า ถ้าคุณมีเวลานานเช่น 10-14 วัน เพราะหลายสายเรือจะผสมกับเส้นทางตะวันออก ทำให้ไม่เสียเวลาการเดินเรือมากเกินไป

สายการเดินเรือก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่หลายคนเลือก อารมณ์ของแต่ละสายเรือจะไม่เหมือนกัน พอจะสรุป ๆ ได้แบบนี้ครับ
1. Royal Caribbean จะเป็นสายเรือที่ออกแนวสนุก เหมาะกับเด็ก ๆ ขึ้นเรือไปเด็กเยอะ เพราะมีกิจกรรมให้เด็ก มีนวัตกรรมเยอะ เช่นล่าสุด เพิ่งร่วมกับ Dreamwork มีตัวแพนด้าใน Kungfu Panda บนเรือด้วย หรือมี Starbuck เป็นต้น เรือที่ใหญ่ ๆ อย่าง Oasis Class มีเฉพาะสายเรือนี้ บางคนชอบเรือใหญ่เพราะมีกิจกรรมหลากหลาย บางคนไม่ชอบเพราะวุ่นวาย เท่าที่ผมดู Oasis Class แพงกว่าสายเดินเรืออื่น ในแคริบเบียนยังแวะเกาะส่วนตัวอย่าง Labadee ซึ่งได้รางวัล
2. Carnival จะเป็นสายเรือที่อารมณ์คล้าย ๆ กับ Royal Caribbean คือออกแนวสนุก ๆ วัยรุ่นมากกว่า
3. Celebrity X อันนี้จะผสมผสานระหว่าง Carnival กับ Princess คือหรูแต่ก็มีความเป็นวัยรุ่นอยู่
4. Princess จะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทั้งการตกแต่งและกิจกรรม มีชื่อเรื่องอาหารที่อร่อย
5. Holland America สายนี้จะดูเป็นผู้ใหญ่สุด อารมณ์แบบตกแต่งเรือด้วยไม้ เรือสีดำ ๆ มีปล่องไฟดูคลาสสิกเหมือนเรือโบราณ ไม่ค่อยจะเจอเด็ก ๆ ให้วุ่นวาย

บริการบน Royal Caribbean ที่ไม่มีในสายเรืออื่น

เรือ Holland America และกิจกรรมขี่ม้าในน้ำในพอร์ตส่วนตัวอย่าง Half Moon Cay

สุดท้ายผมเลือก Western Caribbean กับ Holland America ไป เพราะแวะพอร์ตที่น่าสนใจ และได้ Deck บนเรือที่ราคาถูก คือเป็น Cabin แบบมีระเบียง Balcony แต่ราคาถูกกว่าเจ้าอื่น (ผมจองได้แปดร้อยกว่าเหรียญต่อคน) ใจจริงอยากได้ Royal Caribbean แต่ราคาเต็มแพงกว่าเกือบเท่าตัว เลยต้องถอดใจไป

ข้อดีหนึ่งของการล่องเรือในแคริบเบียนสำหรับคนไทยคือ คุณไม่ต้องทำ Visa ให้ยุ่งยากอีก หลายประเทศยอมรับ Visa ที่เป็นประเภท Cruise Visa ซึ่งทำให้คุณประหยัดค่า Visa ไปเป็นหมื่นบาทสำหรับบางเส้นทางทีเดียว

สุดท้าย ผมขอสรุปแนวทางในการเลือก Cruise ดังนี้ครับ
1. เลือกพอร์ตก่อน ว่าเราจะ Debark ที่ไหน
2. เลือกเส้นทางเดินเรือ (ระยะเวลาที่ได้รับความนิยมคือ 7 วัน)
3. เลือกสายเรือง
4. เลือก Deck แต่ละชั้นราคาไม่เหมือนกัน ข้อดีข้อเสียต่างกัน
5. เลือกห้อง ว่าจะเป็นห้องไม่มีหน้าต่าง Interior ห้องมีหน้าต่าง Ocean View ห้องมีระเบียง Balcony ห้องสวีท Suite ซึ่งราคาแพงขึ้นตามลำดับ

Website ที่เป็นประโยชน์ http://www.criticcruise.com
หาข้อมูลใน Expedia.com เวลาจองอาจจะเปรียบเทียบราคากับ website ของสายเดินเรือนั้น ๆ ไปเลย