MBA ในประเทศจีน

56

October 28, 2010 by Lin

ก่อนที่ผมจะลืมชีวิต MBA ในปักกิ่งไป ขอเขียนทิ้งไว้ซักหน่อยแล้วกันครับ


พิธีรับปริญญา ปี 2009

ส่วนตัวผมไปเรียนปริญญาโทที่จีนในช่วงปี 2007-2009 ที่มหาวิทยาลัย Tsinghua (ชิงหัว) หลักสูตร International MBA ที่ร่วมมือกันกับ MIT Sloan (ได้ปริญญาสองใบ) ประสบการณ์ตรงส่วนนี้ น่าจะช่วยสำหรับคนที่สนใจเรียนต่อ MBA จีน หรือ คนที่สนใจความเคลื่อนไหวของจีนได้เห็นภาพได้คร่าว ๆ

MBA ในประเทศจีนเป็นสิ่งที่เกิดใหม่ อย่าง IMBA ที่เก่าแก่ที่สุดก็มีอายุอานามสิบกว่าปีเท่านั้นเอง ในอดีตคนจีนที่ร่ำรวยนิยมส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศ (รวมถึงนักเรียนที่เรียนเก่ง ๆ และได้ทุนจากรัฐบาล) ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ยุโรป เอเชีย หรือแม้แต่ประเทศไทย และเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมาก ตอนนี้เรียกได้ว่าไปไหนต่อไหน ก็จะเจอนักเรียนจีน การสั่งสมของนักเรียนนอกของจีนตั้งแต่ยุครัฐบาลเติ้งเสี่ยวผิง ช่วยให้ได้ทรัพยากรมนุษย์ที่กลับมาพัฒนาหลักสูตรต่าง ๆ และวางรากฐานการศึกษาของประเทศจีนให้ทันสมัย

ดังนั้น แม้ MBA จะเป็นสิ่งที่เกิดใหม่ แต่การเติบโตก็น่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ทั้งปริมาณและคุณภาพ ด้วยความที่ประเทศจีนถูกจับตามองจากทุกมุมโลก จึงมีมหาวิทยาลัยดัง ๆ หลายแห่งทั่วโลกต่างอยากมาร่วมมือกับจีน ตั้งแต่การร่วมมือขั้นต้นเพียงการแลกเปลี่ยนนักเรียน ศาสตราจารย์ หรือ จนกระทั่งเป็นหลักสูตรร่วม ก็มีทั้งนั้น (มหาวิทยาลัยชิงหัวมีโรงเรียนธุรกิจให้แลกเปลี่ยนกว่า 100 โรงเรียน มีความร่วมมือกับ Sloan, ESSEC, NUS ฯลฯ) จำนวนมหาวิทยาลัยที่เริ่มมีการเรียนการสอน MBA ก็มีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนเรียกได้ครอบคลุมมหาวิทยาลัยหลักของมณฑลในประเทศจีนเกือบทุกแห่ง

ในแง่ของคุณภาพ คะแนน GMAT ของมหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่ขึ้นทุกปี พร้อม ๆ กับความหลากหลายที่เป็นองค์ประกอบหลักของห้องเรียนในโรงเรียนธุรกิจ ในห้องเรียนยุคที่ผมเรียนอยู่ 07 จนกระทั่งถึงปัจจุบันพบว่าคุณภาพในแง่ของ Profile ของนักเรียนสูงขึ้นจากสาเหตุด้านการแข่งขัน เพราะโรงเรียนมี Candidate ให้เลือกเยอะขึ้นมาก (และเยอะขึ้นทุก ๆ ปี) แม้ว่าระบบการเรียนการสอนยังมีความเป็นเอเชียอยู่สูง แต่ด้วยองค์ประกอบของห้องเรียนที่เริ่มมีนักเรียนจากอเมริกา (ส่วนใหญ่เป็น Amercan Born Chinese) และยุโรปเพิ่มขึ้น (อัตราส่วนประมาณ 40% เป็นนักเรียนจีน 30% เป็นเอเชีย 30% เป็นอเมริกา ยุโรป และอัฟริกา)

สำหรับชีวิต MBA ที่ชิงหัว ทุกเช้าขี่จักรยาน ฝ่าฝุ่นและมลพิษจากรถจำนวนมหาศาลในเมืองใหญ่อย่างปักกิ่ง ระยะทางหลายกิโล ทุกวัน ในช่วงหน้าหนาวก็หนาวเข้ากระดูก ฝนตกก็ต้องถือร่มพลางขับจักรยาน ถือว่าเป็นสิ่งที่คงจะมีในจีนที่่เดียว

ค่าใช้จ่ายที่ประเทศจีนนั้น ค่าเรียน MBA เรียกได้ว่าถูกเมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้ว ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ปัจจุบันสูงกว่าประเทศไทยทั้งค่าเช่าบ้านและอาหารการกิน (ยกเว้นแต่อาหารในโรงอาหารมหาวิทยาลัย ที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล) ค่าครองชีพแบบอยู่ได้สุขสบายน่าจะอยู่ที่ 4-500,000 บาทต่อปี ไม่รวมกับค่าเทอมประมาณ 300,000 บาทต่อปี

การที่คลาสเรียนมีคนจีนจากเกือบทุกมณฑล โอกาสที่คุณจะได้สัมผัสความเป็นจีนแท้ ๆ มีสูง นักเรียนส่วนใหญ่มาจากชนชั้นกลางที่เติบโตเร็วมากในประเทศนี้ หลายคนสร้างฐานะเร็วมากจากเงินเดือนที่ปรับขึ้นมากกว่า 50% ต่อปี รวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่ราคาปรับตัวเร็วเหมือนจรวด ช่วงที่ผมไปเทอมแรก คือช่วงที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้อยู่ในช่วงทะยานขึ้นจุดสูงสุดคือ 6,000 จุด เรียกได้ว่าช่วงนั้นถ้านั่งอยู่หลังห้อง จะเห็นนักเรียนจีนจำนวนมาก เปิด Laptop และเทรดหุ้น

ผมเคยคุยกับเพื่อนนักเรียนจีน ว่าเอาเงินมาเล่นหุ้นแบบนี้ ถ้าหุ้นตกจะทำยังไง
เค้าตอบว่า ก็ถือไว้ก่อน เดี๋ยวก็ขึ้น (ช่วงนั้นดัชนี 5,000 กว่าจุด)
ผมถามเล่น ๆ ต่อว่าถ้าดัชนีต่ำลงมามาก ๆ เช่นต่ำกว่า 4,000 จุด เค้าจะทำยังไง
เค้าหัวเราะผมเสียงดัง และบอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เค้าไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น

ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะเหมือนทุกคนในประเทศคิดอย่างนี้กันจริง ๆ อย่างน้อยก็ก่อนโอลิมปิคที่ปักกิ่ง ที่ทุกคนคิดว่าประเทศจีนต้องไม่ยอมให้หุ้นตก และเสียหน้า (ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิด แต่ผลสุดท้าย วันเปิดโอลิมปิคที่กรุงปักกิ่ง ดัชนีปิดที่ 2605.7จุด)

นอกจากหุ้น ดูเหมือนทุกคนก็สนใจเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ช่วงนั้น เงินหาง่ายในประเทศนี้จริง ๆ ดังนั้นเส้นทางสู่ความมั่งคั่งคือการหาเงินสด เพื่อนำมาลงทุนให้เยอะที่สุด และดูเหมือนกับการทำธุรกิจในประเทศจีนไม่ง่ายอย่างที่คิด หลายคนหลังจบเลือกที่จะเป็นพนักงานระดับผู้บริหารก่อนที่จะเป็นเถ้าแก่ผจญความเสี่ยงในตลาดที่แข่งขันสูงแห่งหนึ่งของโลก

นอกจากชีวิตในห้องเรียน ชีวิตนอกห้องเรียนในประเทศจีนมีสีสันมาก ผมคิดว่ามีสีสันมากกว่าประเทศอื่น ๆ จากประสบการณ์ที่ได้ยินได้ฟังจากเพื่อนที่ไปเรียนอเมริกา หรือตัวผมเองที่ไปแลกเปลี่ยนที่ฝรั่งเศสและแวะไปที่อังกฤษ ทริปเส้นทางสายไหมก็เป็นผลพลอยได้จากการเรียน MBA ที่นี่ ชีวิตคนจีนลำบากอยู่มากครับ ไม่เว้นนักเรียน MBA (เพื่อนหลายคน ต้องยืนบนรถไฟ 10 กว่าชั่วโมงทั้งคืน เพื่อกลับบ้านในช่วงเทศกาล) แต่ทุกคนก็มีความอดทนและความพยายาม ด้วยที่ว่ามีความหวังว่าจะมีอนาคตอันเรืองรองรออยู่ข้างหน้า

นักเรียนแลกเปลี่ยนและนักเรียนต่างชาติมีจำนวนเยอะขึ้นทุก ๆ ปี จีนเป็นแม่เหล็กไม่เฉพาะด้านธุรกิจ แต่สำหรับด้านการศึกษาด้วย แม้จุดมุ่งหมายไม่ใช่การแสวงหากำไรเป็นหลัก แต่เป็นการช่วยขัดเกลานักเรียนจีนให้เป็นผู้นำที่มีคุณภาพในอนาคต วิสัยทัศน์ทางการศึกษาประกอบกับความมุ่งมั่น ไม่แพ้บริษัทใหญ่ ๆ ในภาคธุรกิจเลยครับ

ข้อดีในการเรียน MBA ที่จีน
1. MBA ในจีนมีคุณภาพได้รับการยอมรับ คุณภาพการศึกษามีมาตรฐานดีพอสมควร โดยหลาย ๆ ที่ได้รับมาตรฐานการศึกษาหลาย ๆ อย่าง
2. ช่วยในการทำธุรกิจในจีนในแง่ภาพลักษณ์ โดยเฉพาะถ้าจบจากชิงหัว หรือปักกิ่ง
3. ประสบการณ์โดยตรงในประเทศจีน
4. การได้เข้าถึงภาษาจีน (แต่ต้องขวนขวาย)
5. ค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง

ข้อเสียในการเรียน MBA ที่จีน
1. คุณภาพการศึกษาของ MBA ที่ดีที่สุด ยังคงอยู่ที่อเมริกา
2. มลพิษ และความแก่งแย่งในประเทศ แย่งกับคนจีน เหนื่อยครับ
3. ความยังเป็น Asia ที่สูง อาจไม่ถูกใจคนที่อยากเรียนรู้วิถีแบบตะวันตก
4. การศึกษายังเน้นไปด้าน Academic มากกว่าการพัฒนาด้าน Skill
5. อาจจะต้องปรับตัวมาก โดยเฉพาะการใช้ชีวิต หากไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเลย

ข้อดีของ IMBA มหาวิทยาลัยชิงหัว (ขอโปรโมทโรงเรียน)
1. เป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นของประเทศ คู่กับมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
2. อยู่ในกรุงปักกิ่ง ศูนย์กลางวัฒนธรรมจีน
3. หลักสูตรร่วมกับ MIT Sloan ได้รับ Accredited AACSB, EQUIS
4. Campus น่าอยู่ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
5. มี co program, exchange และกิจกรรมจำนวนมากให้เลือก
website: http://www.sem.tsinghua.edu.cn/portalweb/appmanager/portal/semEN

โดยรวม ผมว่าคุ้มค่า และเป็น 2 ปีที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิตที่ผ่านมา มิตรภาพดี ๆ ประสบการณ์ และความรู้ ก็เล่ากันต่อ ๆ ได้ ไม่รู้จักจบสิ้นครับ

56 thoughts on “MBA ในประเทศจีน

  1. 1001ii says:

    Thanks for sharing experience krab.

  2. ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ ขออนุญาตนำไปเเนะนำต่อใน Blog ของผมนะครับ ^___^

  3. ผมเพิ่งเจอ Blog นี้เมื่อวันศุกร์ จากนั้นก็เริ่มไล่อ่านจนหมดทั้ง Blog พบว่าเป็นเเนวคิดที่น่าสนใจมากๆ จริงๆ ครับ

  4. Min says:

    สวัสดีครับ ผมชื่อมินครับ
    รบกวนขอถามพี่หน่อย เพราะผมก็อยากไปเรียนจีน คณะเดียวกับพี่เลยครับ
    และที่แปลกผมจบที่ วิศวะจุฬาเหมือนกันเลย ผมเพิ่งจบมาได้ปีนึงครับ
    ซึ่งตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่ ปตท เคมิคอล

    ตอนที่พี่สมัครเรียน สมัครทางไหนหรอครับ??
    ผมเห็นมีทุนของ CHINA SCHOLARSHIP COUNCIL แต่มันต้องเขียน Study plan
    รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ
    ขอบคุณมากครับ

    • Verapong Tam says:

      สมัครตรงไปเลยครับ e-mail ไปหาที่ office ค่อนข้าง response เร็ว และมืออาชีพ
      แต่ประสบการณ์ปีนึง อาจจะน้อยไปซักนิดนึงนะครับ โดยเฉลี่ยน่าจะ 2-3 ปีขึ้นไป

      ส่วนเรื่องทุน ไม่แน่ใจครับ เรื่องการสมัครหรือการใช้ชีวิตมีอะไรก็ถามมาได้ครับ

  5. Thanawat Pruksananont says:

    สวัสดีคับ พอดี ผมได้ accepted จาก 1) BIMBA 2) CEIBS และ 3) Tsinghua SEM ไม่รู้ช่วย Share ข้อดีขอเสียของแต่ละที่หน่อยได้ไหมครับ ขอบคุณมากนะครับ

    คืออยากเปรียบเทียบ สามที่นี้ในเชิง 1) ชื่อเสี่ยง ที่ เมืองจีนและเมืองไทย 2) alumni network
    3) โอกาสเห็นธุรกิจใหม่ๆ 4) คุณภาพของอาจารย์ และ การเรียนการสอนด้าน entreprenuership และเพื่อน

    ขอบคุณมากๆครับ

  6. Verapong Tam says:

    ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีด้วยครับ 🙂

    เรียงลำดับชื่อเสียงที่เมืองจีน ผมว่าต้องตัด CEIBS ออกไปก่อน เพราะคนจีนทั่วไปไม่รู้จัก ยกเว้นบริษัทข้ามชาติในจีน จะรู้จัก CEIBS ส่วน BIMBA ก็ไม่ใช่ Peking U ซะทีเดียว ผมคิดว่า ข้อนี้ SEM จะได้เปรียบกว่า

    ส่วนข้อที่เหลือตอบยากครับ ไม่รู้จะตอบยังไง

    ผมคิดว่าถ้าอยากไป Peking U ผมว่าต้อง Guanghua ดีกว่า CEIBS จะเหมาะถ้าจะไปเป็นมือปืนรับจ้างเงินเดือนสูง ๆ และ Tsinghua ก็เป็นทางเลือกหนึ่งใกล้เคียงกับ Guanghua แต่อาจจะได้ International กว่า

    ผมว่า MBA ก็ไม่ใช่คำตอบด้าน entreprenuership ซะเท่าไหร่ ถึงแม้จะเป็นเมืองจีนก็ตาม แต่สิ่งที่ได้จะเติมความรู้ในส่วนที่ขาด ถ้าคุณไม่ได้จบด้านบริหารมาในช่วงปริญญาตรี และโอกาสจากจีนในอนาคตครับ

    • Thanawat Pruksananont says:

      ขอบคุณมากนะครับ ช่วยได้เยอะเลยแต่ยังสงสัยอยู่นิดหน่อยครับ

      1) แล้วถ้าเป็นชื่อเสียงทั่วๆไปใน ASIAระหว่าง CEIBS กับ Tsinghua หละครับ?
      2) Diploma ที่ได้นี่เขียนเป็น MIT-Tsinghua joint program หรือว่าเป็น Tsinghua university ครับ ? ถ้ามีรูปจะช่วยได้เยอะเลย
      3) พอเข้าไปดู faculty list เห็นอาจารย์ Tsinghua ส่วนใหญ่มาจากจีนหรือเปล่าครับ? มีอาจารย์จาก MIT เยอะไหมครับ แล้วอาจารย์เปรียบเทียบกับอาจารย์อเมริกาเป็นยังไงบ้างครับ?
      4) class experience เป็นยังไงบ้าง มี group project / class interaction เยอะไหม / เพื่อนๆมีประสบการณ์ที่มาก และ หลาหลายไหม
      5) Alumni Tsinghua ในเมืองไทยเยอะไหมครับ?

      ขอบคุณมากๆอีกครั้งนะครับ ถ้าไม่เจอ web พี่ก็ไม่รู้จะตัดสินใจยังไงเหมือนกัน

  7. Thanawat Pruksananont says:

    ขอถามอีกหนึ่งคำถามสั้นๆครับ ถ้าผมไม่มีความรู้ภาษาจีนมาก่อน แล้วไปเรียนที่นั่นจะเสียโอกาสร่วมกิจกรรมต่างๆเยอะไหมครับ แล้ว มีนักเรียนที่ไม่รู้ภาษามาก่อนไปเรียนเยอะไหมครับ
    ขอบคุณมากๆนะครับพี่

  8. Verapong Tam says:

    1. ตอบไม่ถูกเหมือนกันครับ แต่เท่าที่เห็น CEIBS จะรู้จักกันในกลุ่มคนไม่กว้างนัก ส่วน Tsinghua ถ้าเป็นประเทศที่ผูกพันกับประเทศจีนหน่อยก็รู้จัก อย่างในไทยก็รู้จักในเฉพาะคนจีนครับ เหมือน Peking U จะกว้างกว่า
    2. ได้ diploma 3 ใบครับ จาก SEM, Tsinghua แล้วก็ MIT ถ้าชอบก็มีให้ติดผนังหลายใบ เพราะมี version ภาษาจีนด้วย
    3. faculty ที่มาจาก MIT จะบินมาเป็นครั้ง ๆ ครับ ไม่บ่อย แต่อ.ที่สอนอยู่ ส่วนมากก็จะจบจากอเมริกา หลายคนสอนดีครับ บางคนผมก็เฉย ๆ
    4. ดีมากครับ เป็นประสบการณ์ที่ผมคิดว่าคุ้ม บรรยากาศใน class ก็แบบ MBA ในเอเชีย แต่มีนร.ต่างชาติมาสร้างสีสันได้พอสมควร
    5. ถ้านับเฉพาะ SEM ก็สิบกว่าคนครับ
    6. ควรจะได้ภาษาครับ ได้เปรียบกว่า ถ้าไม่ได้เลย ก็คงจะมี gap อยู่บ้าง

    เอาไว้ถ้าได้ยังไงก็บอกข่าวคราวด้วยครับ ปกติ alumni ที่นี่ก็สนิทกันพอสมควร เผื่อจะนัดไปทานข้าวกันครับ

  9. Thanawat Pruksananont says:

    ผมได้แล้วครับ ต้องตอบตกลง Tsinghua ภายในอาทิตย์หน้าแล้ว กำลังเลือกระหว่าง Tsinghua CEIBS แล้วก็ Imperial คือ ตอนนี้กลัวอย่างเดียวคือ เรื่องภาษาครับ คือ กลัวว่าแบบจะ ฟังนักเรียนจีนคุยงานกลุ่มไม่รู้เรื่องเวลาคุยกันข้างนอก class แล้วก็กลัวว่าจะไม่มีโอกาสเข้า event และกิจกรรมต่างๆ นอก class เนื่องจากจัดและคุยกันเป็นภาษาจีน พี่ว่าจะมีปัญหาพวกนี้ไหมครับ ? หรือว่าส่วนใหญ่จัดและคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ? ไว้นัดกินข้าวกันครับพี่ emailผม limpverpool@gmail.com นะครับ ขอบคุณครับ พี่

  10. Verapong Tam says:

    อย่างนี้ถึงเวลาเริ่มเรียนภาษาจีนแล้วล่ะครับ 🙂

    คนอเมริกันที่พูดจีนไม่ได้เลย ยังอยู่รอดเลยครับ คนไทยเรียนภาษาจีนไม่ยากหรอกครับ

    เอาไว้นัดกินข้าวรอบหน้าจะนัด Thanawat ไปด้วยนะครับ ถึงเวลานั้น คงตัดสินใจเรียนมหาลัยที่อยากได้เรียบร้อยแล้ว

  11. Thanawat Pruksananont says:

    ตอนนี้ตัดสินใจเกือบได้แล้ว คำถามสุดท้ายครับพี่ คือในตัวเมืองปักกิ่งเนี่ยได้ยินเรื่องปัญหา pollution เยอะมาก ไม่ทราบว่าที่ campus เนี่ยสภาพอากาศเป็นยังไงบ้างครับและความเป็นอยู่อื่นๆมีปัญหาที่กระทบสุขภาพเยอะไหมครับ ขอบคุณมากครับ พี่

  12. Anuchit Shen says:

    ขอถามหน่อยครับว่า พายุฤดูร้อนเนี่ย มีตอนช่วงเดือนอะไร คือผมสนใจ
    จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทัวร์ เมืองจีนครับ

  13. Anuchit Shen says:

    ที่เมืองปักกิ่งน่ะครับ

    ขอบคุณมาก ๆครับ ผมเรียนทางแพทย์น่ะ ฟังแล้วรู้สึกสนใจ
    ทางด้าน MBA อยู่

  14. Thitinun says:

    สวัสดีค่ะ
    หนูอยากเรียนMBAที่Tsinghuaมากค่ะ หนูเรียนเพิ่งจบ บริการ การเงิน จากอินเดียค่ะ
    หนูมีเพื่อนเป็นคนจีน เค้าเชียร์ให้เรียนที่นี้มากค่ะ
    เเล้วเดี๋ยวอาทิตย์หน้าต้องกลับไทยเเล้ว ต้องกลับไปให้คำตอบที่บ้านเรื่องปริญญาโทค่ะ
    คุณพ่ออยากให้เรียนต่อปริญญาโทที่เมืองจีน เพราะอยากให้ได้ภาษาอะค่ะ
    หนูจะต้องเตรียมตัวยังไงบ้างค่ะ แล้ว TOEFL GMAT ต้องสอบให้ได้เท่าไหร่ค่ะ
    อีกเรื่องก็คือประสบณ์การจำเป็นต้องมีไหมค่ะ คุณพ่อไม่อยากให้ทำงาน อยากให้เรียนโทให้จบก่อน
    ขอโทษน่ะค่ะที่ถามพี่เยอะ
    รบกวนด้วยค่ะ^^

  15. Verapong Tam says:

    เรื่องอากาศก็แย่อย่างที่ว่าครับ เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ คนเยอะ รถเยอะ
    พายุทะเลทรายผมจำไม่ได้ คลับคล้ายคลับคลาก็ช่วง Spring ครับ ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเที่ยวปักกิ่งคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก่อนเข้าหน้าหนาว ประมาณต.ค.นะครับ อากาศเย็นกำลังดี ท้องฟ้าโปร่ง

    MBA ส่วนมากต้องการประสบการณ์ครับ ประมาณ 3 ปี แต่ถ้า outstanding ก็ไม่ต้องถึงเกณฑ์ได้ครับ

    รายละเอียดอื่น ๆ search หาบนเวปได้ครับ หรือถาม admisson officer ได้ครับ ส่วนใหญ่ก็ใช้เหมือนยูที่อเมริกาครับ

  16. Thitinun says:

    แล้วไม่ทราบว่าค่าเรียน MBA ที่ระบุในเว็บ $30000 เป็นค่าเทอม ทั้งcourseเเล้วใช่ไหมค่ะ
    คืออยากทราบว่าต้องเตรียมงบไว้ทั้งหมดประมาณเท่าไหร่ค่ะ

    • Verapong Tam says:

      ทั้ง course แล้วครับ รวมค่าหนังสือด้วย (sponsor โดย MIT) 🙂 ไม่ต้องซื้อเอง

      ส่วนค่าใช้จ่ายรายเดือน คิดว่าซัก 2-3 หมื่นบาทก็อยู่ได้ดีระดับหนึ่งครับ
      คิดง่าย ๆ ว่า ค่าใช้จ่ายเหมือนกรุงเทพฯ x 1.5 เท่าครับ

  17. Finger says:

    พี่ๆค่ะ หนูสนใจไปเรียนต่อที่เมืองจีน สนใจที่ Ceibs, Tsinghua, และ Beida ค่ะ
    ถ้าจะรบกวนขอ email ของพี่ Veerapong กับ พี่ Thanawat เพื่อสอบถามโดยตรงได้ไหมค่ะ รบกวนด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

    • Verapong Tam says:

      e-mail ไปให้แล้วครับ ตามที่ ทิ้ง mail เอาไว้
      คุยกันตรงนี้ก็ได้ครับ เผื่อจะแชร์ให้คนอื่นได้ประโยชน์ด้วย 🙂

  18. Suthera says:

    อยากถาม เรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของ UIBE ค่ะ
    ทราบว่าเป็น international university

    ตอนนี้กำลังจะจบปริญญาตรีและ ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเลย
    ถ้าจะเรียน MBA ที่ UIBE จะเวิร์คไหมคะ

  19. Lin says:

    เท่าที่เห็น UIBE หรือจิงเม่า มีนร.ไทยจำนวนมาก เพราะมีช่วงหนึ่งที่รัฐบาลให้ทุนมาเรียน

    ผมไม่เคยดูรายละเอียดสักเท่าไหร่ เคยไปมหาวิทยาลัยก็น่าอยู่ดีครับ การเรียนก็อาจจะเข้มข้นน้อยกว่ามหาวิทยาลัยปักกิ่ง หรือ ชิงหัว แต่ก็มีชื่อเสียงด้านการค้า

    ผม List มาให้ดูว่า ในปักกิ่งมีมหาวิทยาลัยที่ได้รับรองจากรัฐอะไรบ้าง แค่ในปักกิ่งนะครับ .. คือถ้าไม่ใช่ม.ปักกิ่ง หรือชิงหัว (หรืออาจจะรวม Renmin ด้วย) ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ มหาวิทยาลัยอื่น ๆ จะพยายามมีเอกลักษณ์หรือวิชาเฉพาะของตัวเองทั้งนั้นครับ

    Peking University (北京大学)
    Tsinghua University (清华大学)
    Renmin University of China (中国人民大学)
    China University of Geosciences (中国地质大学(北京))
    Beihang University (北京航空航天大学)
    Beijing Broadcasting Institute (北京广播学院)
    Beijing Foreign Studies University (北京外国语大学)
    Beijing Forestry University (北京林业大学)
    Beijing Jiaotong University (北京交通大学)
    Beijing Language and Culture University (北京语言大学)
    Beijing Normal University (北京师范大学)
    Beijing University of Chemical Technology (北京化工大学)
    Beijing University of Chinese Medicine (北京中医药大学)
    Beijing University of Petroleum (北京石油大学)
    Beijing University of Posts and Telecommunications (北京邮电大学)
    Central Academy of Drama (中央戏剧学院)
    Central Conservatory of Music (中央音乐学院)
    Central University of Finance and Economics (中央财经大学)
    Central University of Nationalities (中央民族大学)
    China Agricultural University (中国农业大学)
    China Central Academy of Fine Arts (中央美术学院)
    China Central Radio and TV University (中央广播电视大学)
    China University of Mining & Technology at Beijing (中国矿业大学 (北京))
    China University of Political Science and Law (中国政法大学)
    Communications University of China (中国传媒大学) (formerly Beijing Broadcasting Institute)
    North China Electric Power University at Beijing (华北电力大学 (北京))
    University of International Business and Economics (对外经济贸易大学))
    University of International Relations (国际关系学院)
    University of Science and Technology Beijing (北京科技大学)
    Beijing Electronic Science and Technology Institute (北京电子科技学院)
    Beijing Institute of Technology (北京理工大学)
    Beijing People’s Police College (北京人民警察学院)
    Beijing University of Aeronautics and Astronautics (北京航空航天大学)
    Beijing University of Physical Education (北京体育大学)
    Central University for Nationalities (中央民族大学)
    China Center of Advanced Science and Technology (中国高等科学技术中心)
    China Foreign Affairs University (外交学院)
    China Institute of Industrial Relations (中国劳动关系学院)
    Chinese People’s Public Security University (中国人民公安大学)
    China Women’s University (中华女子学院)
    China Youth University for Political Sciences (中国青年政治学院)
    Peking Union Medical College (北京协和医学院,formerly 中国协和医科大学)

  20. Lin says:

    เรื่องภาษา ผมแนะนำเหมือนคนก่อน ๆ ว่า ถ้าเรียนภาษาก่อนได้ จะดีกว่ามากครับ

    ใช้เวลาแค่ 3-4 เดือน ก็ได้เยอะครับ

    ตอบกว้าง ๆ เรื่องเรียน MBA ผมว่าถ้าไม่มีประสบการณ์แล้วไปเรียน อาจะไม่ได้ประโยชน์เท่าการมีประสบการณ์เยอะ แล้วไปเรียนรู้ครับ ในความเห็นส่วนตัว MBA ที่มีคุณภาพ จะมี body ของนักเรียนที่ดี เช่นมีประสบการณ์หลายปี อยู่ในอุตสาหกรรมหลากหลาย เป็นต้น

  21. Meiling says:

    สนใจเรียนที่ CEIBS ค่ะ เหตุผล เพราะ
    – ติด top rank
    – เป็น international course ที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษ
    โดยส่วนตัวจบบัญชีมาค่ะ และได้ CPA แล้ว ทำงานตรวจสอบอยูบริษัทฝรั่ง แต่อยากจะเรียนต่อยอดน่ะค่ะ ไม่รู้จะเลือกที่ไหนดี ระหว่าง CEIBS, Fudan, Tsinghua แต่รู้มาว่า Tshinghua จะถูกกว่า ขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ

  22. Nick says:

    ผมสนใจที่จะเรียนต่อที่Tsinghua University (清华大学)ในคณะDept of Industrial Engineering ในระดับปริญญาเอก โดยพื่้นฐานทั้งตรีและโทก็จบจากคณะDept of Industrial Engineering โดยมีใบ กว.และ HSK 6 ในระบบใหม่ เลยอยากทราบว่าการเข้าศึกษาต่อที่ ม.ชิงหัว โดยปกติแล้วในการรับนักศึกษาเข้าศึกษาพิจารณาจากอะไรบ้างครับ มหาวิทยาลัยที่จบมา เกรดเฉลีย หรือ แค่ Study plan น่าสนใจก็พอแล้ว และควรเตรียมคุณสมบัติ อะไรเพิ่มเติมไหมครับเพราะสนใจที่จะเข้าที่นี้มากขอคำแนะนำด้วยนะครับ

  23. Lin says:

    @Meiling
    ถ้ามาสาย CPA และอยากทำงานเป็นมือปืนรับจ้าง CEIBS ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ
    มาพักหลัง CEIBS ก็มีคนไทยไปเรียนเยอะขึ้น อีกทางเลือกหนึ่งคือผมแนะนำ ลองดูที่ฮ่องกงรึยังครับ ฮ่องกงก็เป็นแหล่งการเงินที่ชัดเจนมากกว่าเซี่ยงไฮ้ในปัจจุบัน

    เรื่องค่าเรียน ผมไม่แน่ใจ แต่คิดว่า Tsinghua น่าจะถูกกว่า รุ่นที่ผมเรียนคือ 120,000 RMB ครับ

    @Nick
    ระดับปริญญาเอก ผมไม่มีข้อมูลเลยครับ แต่คิดว่าเหมือนมหาวิทยาลัยในไทย คือดูคุณสมบัติหลาย ๆ ด้าน ลองโทรศัพท์ไปที่คณะที่สนใจเรียนดูครับ แผนก Admission
    http://www.tsinghua.edu.cn/publish/th/6165/index.html

  24. Erlicheer says:

    ขอความรู้หน่อยคะ คืออยากจะไปเรียนโท ที่มหาลัยนี้ แต่ไม่รู้ว่าหลักสูตรที่จีนเป็นอย่างไร
    1.ที่มหาลัยTsinghua เป็น หลักสูตร inter หรือ แบบ ภาษาจีนคะ
    2.แล้วถ้าจะไปเรียนสายการเงิน จะเป็น MS Finance หรือ MBA finance คะ
    3.แล้วก็สงสัยอีกอย่างคะ คือเวลาเรียนต้องทำวิจัยหรือเรียนปกติ เหมือนไทยคะ

    ขอบคุณคะ

    • Lin says:

      1. มีทั้งสองหลักสูตรครับ ภาษาจีน มีสองหลักสูตร FMBA (Full time) กับ PMBA (Part time) ส่วนภาษาอังกฤษเรียกว่า IMBA ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ co กับ MIT

      2. เรียนสายการเงินจริง ๆ ผมว่าเรียน MS Finance ดีกว่า แต่ MBA ก็ทำงานสายการเงินได้ครับ และผมคิดว่าไม่ต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับอยากเรียนอะไร ระหว่างสูตรทางการเงินมากมาย (ที่จะนำไปสู่การทำปริญญาเอกได้ง่ายกว่า) กับ case study ทางธุรกิจใน MBA (ที่จะช่วยให้มองภาพธุรกิจจริง ๆ ได้ดีกว่าครับ)

      3. เรียน MBA ของ Tsinghua มีให้เลือกสองอย่างระหว่างทำ Thesis กับทำ Paper ครับ ถ้าลงหน่วยกิตเยอะหน่อยก็สามารถเลือกทำ Paper ได้ (10,000 words) ซึ่งไม่ซับซ้อนเท่า Thesis ครับ

  25. ann says:

    หวัดดีค่ะ เพิ่งเจอบล๊อกนี้ตอน search หาเรื่องเรียนต่อที่ tsinghua แล้วอยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องต่อโทที่ชิงหัวหน่อยค่ะว่าถ้าจะเรียนเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ นอกจาก Toefl แล้วต้องมีสอบสัมภาษณ์ หรือสอบตรงกับคณะอีกทีหลักจากส่งเอกสารทั้งหมดไปแล้วหรือป่าวคะ แล้วทางมหาลัยเค้ามีหลักการเลือกรับนักศึกษาจากอะไรคะ คือตอนนี้อยากเรียนที่ชิงหัวโปรแกรม International Construction Project Management แต่ก็ยังลังเลว่าดีหรือป่าว เพราะไม่ค่อยมีข้อมูลหรือคนรู้จักเรียนที่นี่เท่าไหร่ ส่วนมากจะเรียนที่จิงเม่ากัน
    ขอบคูณมากค่ะ

    • Lin says:

      ไม่แน่ใจว่าทางมหาลัยตอบกลับมารึยัง ตอบช้าไปหน่อย -_-” ต้องดูในรายละเอียด admission แต่โดยปรกติแล้วจะต้องมีการสัมภาษณ์อีกครับ

      เดี๋ยวนี้มีหลักสูตรค่อนข้างเยอะ แต่พยายามเลือกหลักสูตรที่เปิดมานานหน่อยก็ดีครับ จะได้มีความพร้อมมากกว่า

      ถ้าอยากทราบรายละเอียด น่าจะขอที่ติดต่อกับศิษย์เก่า และสอบถามจากศิษย์เก่าครับ ตอนผมเข้า MBA ก็ได้ข้อมูลดี ๆ จากศิษย์เก่า ซึ่งช่วยในการตัดสินใจได้มากทีเดียว

  26. ปุ๋ย says:

    ขอสอบถามด้วยคนนะคร่ะ คือว่าอยากเรียนด้านบริหารบรรยาย ภาษษอังกฤษคร่ะ สนใจที่ peking n’ Tsinghua เค้ารับไอเอลไหมคร่ะและไม่มีประสบการ์ทำงานสามารถเรียนได้รึเปล่าคร่ะ?

  27. Lin says:

    ตอนผมสมัครไม่จำเป็นต้องใช้ IELTS ครับ ใช้แค่เฉพาะ GMAT

    ประสบการณ์จำเป็นครับ ยิ่ง MBA ยิ่งจำเป็น ถ้าประสบการณ์น้อย ก็เป็นข้อเสียเปรียบผู้สมัครคนอื่นครับ

  28. Anong says:

    ผมอยากจะขอชาบเลื่องข้อมูนกับพี่เกี่ยวกับคะนะ MBA ในหลักสูด Master Degree ผมเปันคนลาวคับ 我是老挝人อยากจะไปเรียนคะนะนี้เปันพาสา汉语เลียคับผมเพาะก่อมีBasic 汉语一点。ไม่มีปะสบการในกานทำงานมาก่อน 2013 จะไปเรียนที่ Tsinghua 清华大学คับ
    นี้คืที่อยู่E mail boualaphimanong@hotmail.com
    http://www.facebook.com/ Anong Boualaphim ชว่ยตอบหน่อยคับพี่因为我的泰语学不太好。对补习。

  29. Lin says:

    you can check it on website krub.

    http://www.sem.tsinghua.edu.cn

    any particular questions, please feel free to ask here. 🙂

  30. pui says:

    แล้วมีที่ไหน แนะนำอีหบ้างไหมคร่ะ เช่นที่เว๊ยงไฮ้และกวางเจาอ่ะคร่ะ

    • Lin says:

      เซี่ยงไฮ้มีหลายที่เลยครับ เช่นที่ เซี่ยงไฮ้ เจียวทง ลองเช็คดู กวางเจา ผมไม่ค่อยเห็นนะ ส่วนมากจะไปที่ฮ่องกงเลย

  31. habbit1668 says:

    1.ถ้าเรียนเป็น MS Finance จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ทำงานมั้ยค่ะ
    2.ไม่จำเป็นต้องใช้คะแนน TOEFL/IELTS หรอค่ะ ยื่นแต่ GMAT อย่างเดียวก็ได้ใช่มั้ยค่ะ

    • Lin says:

      ไม่แน่ใจครับ ตอนที่เรียนยังไม่มี MS Finance เลยครับ

  32. Lin says:

    พี่คะ พอดีหนูคิดจะไปเรียนต่อ Tsinghua-MIT imba ที่พี่ไปเรียนมาอะคะ อยากขอทราบความคิดเห็นหน่อยว่าเป็นยังไงบ้างคะ

    1. คนที่จบมาส่วนใหญ่ทำงานลักษณะไหนกัน (แล้วถ้าหนูจบวิศวะ ปริญญาตรี มาอะคะ)
    2. คำถามสัมภาษณ์เข้าเป็นยังไงบ้าง ต้องเตรียมตัวยังไง
    3. มีสมาคมศิษย์เก่าในไทยหรือเปล่าคะ

    กำลังลังเลอยู่คะระหว่างจะต่อ Finance ที่ Cambridge หรือ Imperial หรือ iMBA Tsinghua ดี ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

    ตอบ
    1. เหมือนคนจบ MBA ครับ
    2. คำถามลักษณะว่า มาเรียนเพราะอะไร มีแผนอนาคตยังไง ประมาณนี้ครับ
    3. ไม่มีครับ แต่ก็ยังมีติดต่อกันอยู่ครับ

  33. W.MR says:

    สวัสดีค่าพี่วีระพงษ์

    ตอนนี้กำลังจะขึ้นปีสี่ คณะบัญชี ที่จุฬาฯค่ะ
    กำลังหาข้อมูลไปเรียนต่อ ป.โท ที่ประเทศจีน พื้นฐานภาษาจีนก็พอมีอยู่บ้างค่ะ

    1. อยากทราบว่าการมีประสบการณ์ทำงาน นอกจากเรื่องคุณสมบัติในการสมัครเรียนแล้ว มีผลต่อเวลาเรียนในห้องมากน้อยแค่ไหนคะ
    ถ้ามีแล้วจะช่วยให้เรียนได้ดีขึ้นไหม แล้วถ้ายังไม่มีจะทำให้การเรียนในห้องลำบากขึ้นมั้ยคะ เวลานึกถึง mba ก็จะนึกถึง session ที่ต้องมาแลกความคิดเห็นกัน ที่นี่เรียนอย่างนี้ด้วยหรือเปล่าคะ

    2. GPAX ตอนเรียนป.ตรี และคะแนน GMAT โดยเฉลี่ยๆแล้วขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่คะ

    กำลังดูข้อมูล UIBE อยู่ด้วยค่ะ แต่เห็นหลายคนบอกว่าคนไทยไปเรียนที่นี่เยอะ ก็เลยอยากลองหาข้อมูลที่อื่นไว้เปรียบเทียบ เพราะอยากจะได้ภาษาจีนกลับมาใช้งานช่วยที่บ้านด้วยค่ะ

  34. Lin says:

    @W.MR
    ประสบการณ์ทำงานคงไม่ได้เกี่ยวกับเกรดครับ แต่จะช่วยให้เราเข้าใจ case และเอาประสบการณ์และความเห็นเรา contribute ให้ class ได้ดียิ่งขึ้น การเรียน MBA ที่นี่ก็เน้นหนักด้านนี้ครับ เพราะคุยเคสกันทุกอาทิตย์

    GMAT เห็นล่าสุดเหมือนจะเฉลี่ย ๆ อยู่ที่ 650 คงต้องเช็คอีกที แต่ min อยู่แถว 5ร้อยปลาย ๆ ครับ GPAX ผมคิดว่าเค้าดูประกอบ ไม่น่าจะมีผลสำคัญมากเท่าผล GMAT ครับ

  35. W.MR says:

    ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยตอบ ((:

  36. Zeecgal says:

    สวัสดีค่ะ สนใจจะไปศึกษาต่อ ป.โท IMBA ที่ Tsinghua
    ตอนนี้อยู่ ปี 2 ค่ะ เห็นว่าต้องสอบ GMAT ด้วย
    อยากทราบว่าพี่เตรียมตัวยังไงคะ
    แล้วมันต้องสอบอย่างอื่นอีกด้วยมั้ยคะ (TOFEL, HSK…)

    • Lin says:

      GMAT เราควรฝึกทำโจทย์ครับ ซื้อหนังสือที่เป็นโจทย์มาฝึกทำ มีวิธีเดียว แล้วก็ฝึกตั้งข้อสังเกตของภาษาให้มาก ๆ เพราะไวยกรณ์ที่เราเคยเรียนมาในภาษาอังกฤษทั่วไป อาจจะไม่ถูกที่สุดในมุมมองของ GMAT เพราะเค้าเน้นภาษาที่เป็นตรรกะและไม่กำกวมครับ

      อีกเรื่องคือต้องพยายามอ่าน Magazine ภาษาอังกฤษ เช่น TIMES หรือหนังสือธุรกิจต่าง ๆ เพราะจะช่วยเราได้มากในการทำส่วน Reading

      ถ้าจะเรียนเสริมก็มีให้เลือกเรียนหลายที่ จะมีเทคนิคการทำโจทย์อยู่พอสมควร โดยเฉพาะส่วนที่เป็นส่วนเลขครับ

      ถ้าไม่ได้เข้า MBA ภาคภาษาจีนก็ไม่ต้องใช้ HSK ครับ

      • Zeecgal says:

        แล้วที่นี่ require ประสบการณ์การทำงานด้วยมั้ยคะ อยากจบปี 4 แล้วไปศึกษาต่อเลย

      • Lin says:

        ประสบการณ์จำเป็นครับ อย่างน้อย 2-3 ปี

  37. ebaball says:

    สวัสดีครับ ได้มีโอกาศอ่านเวปบล๊อคนี้โดยบังเอินได้อ่านบล๊อค ratchadamri `185` แล้วชอบ
    คือตอนนี้ผมเรียนอยู่ 浙江大学 ได้ปีสอง สาขาที่ผมเียนคือ ภาษาจีน และได้อ่านบล๊อคนี้เลยอยากถามหน่อย ไว้เป็นแนวทางครับ
    คือผมวางแผนไว้ ผมเรียนที่จีนมาปีนี้ก็ปีที่ 4 แล้ว จบป.ตรีแล้วอยากจะเรียน mba or imba คือผมเรียน ตอนนี้คือหลักสูตรจะเป็นจีนหมด
    แต่ผมก็เทคเรียน เสดทะสาด(ขอโทดที่เขียนผิดคีบอดไม่มีพาษาไทยพิมยากมาก) ของมหาลัยไว้ด้วย เผื่อไว้เป็นแนวทาง อยากรู้ว่าสอบสำพาดเข้านี่ ถ้าเค้าสอบประวัติแล้วเราจบทางด้านนี้มาจะมีปันหาหรือไม่ คือตอนนี้มีคะแนนคะแนน Ielts 6.0` ตอนนี้กำลังเทค gmat อยู่ด้วย
    คือใจผมอยากเรียน mba นะแต่เราเดินมาผิดแล้ว แล้วไม่คิดอยากจะเสียเวลาเปลี่ยนย้ายสาขาแล้ว คือเอาตรงนี้ให้จบๆไป แล้วก็ต่อ mba คือที่ได้ยินมาบางมหาลัยที่ได้ มตาถาน จะสอบสันพาดเราแล้วสอบถามข้ามูลเหมือนถ้าเราไม่ได้เรียน ทางสายนี้มา เค้าจะไม่รับ
    อีกอย่างเรียนที่ชิงหัวมีเพื่อนคนไทยเยอะไหนครับแล้วต่างชาติที่เรียนมากหรือคนจีนมากกว่าที่เรียนด้วย กัน

    • Lin says:

      สวัสดีครับ ebaball,
      mba ไม่ได้สนใจประวัติการเรียนในปริญญาตรี หรือโทเท่าไหร่ครับ เค้าสนใจประวัติการทำงานมากกว่าครับ

      คนไทยมีเกือบทุกปี 2-3 คน ถ้าเป็น imba ก็จะมีคนจีนประมาณ 40-50% ที่เหลือเป็นต่างชาติครับ ชาติหลัก ๆ มักจะเป็นเกาหลีและอเมริกันครับ

      • ebaball says:

        ขอบคุนครับ lin,
        จำเป็นหรือครับที่ต้องมีประวัติการทำงาน
        ถ้าผมจบแล้วต่อเลย โดยที่ไม่ผ่านการทำงาน โดยมีคะแนน gmat or ielts จะสามารถเข้าได้เลยไหม

        ปล.ชอบที่คุณหลินเขียนเกี่ยวคนจีนเก็งหุ้นกัน ทั้งแถวร้านกาแฟและในห้องเรียนคนจีนนั่งเก็งหุ้นเห็นบ่อยมากฮาาๆๆ คือผมอยากเริ่มลองเล่นหุ้นจีนนะ ด้วยเสดทะกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดดของจีน น่าสนๆๆ
        คุณหลินพอมีประสบการทางด้านนี้บ้างมั้ยครับ

  38. aung says:

    สวัสดีค่ะ เรียนเอกจีนธุรกิจ กำลังจะจบค่ะ สนใจเรียน ต่อโทด้าน 企业管理 พอจะรู้มั้ยค่ะว่ามันมีวิชาเกี่ยบกับคณิตศาตร์มั้ย ไม่เก่งคณิตเลย กลัวมาก เคยดูรายวิชานี้ของมหาลัยอื่นๆ เหมือนจะไม่มี ไม่แน่ใจ รบกวนด้วยน่ะค่ะ

  39. ตี่ says:

    ตอนไปเรียนภาษจีนที่ Tsinghua ก็เล็งๆ หลักสูตรนี้อยู่เหมือนกัน แต่เสียดาย มารู้จักการลงทุนซะก่อน เลยตัดสินใจไม่เรียน mba แล้ว เอาเงินกับเวลามาลงทุนจริงๆ เลยดีกว่า 555

  40. vavhaa says:

    พี่คะ ขอสอบถามหน่อยว่าถ้าได้hsk6เเล้วสามารถพาสเข้าปีสามได้เลยไหม๊ค่ะ ช่วยตอบหน่อยนะคะ

  41. Lee says:

    ขอสอบถามค่ะ
    ว่าความแข็งแรงทางภาษาอังกฤษภาพรวมในคลาสเป็นยังไงบ้างคะ
    เปรียบเทียบ เอเชียกับ อเมริกัน

    พอดีสนใจยูนี้ค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

  42. Ornpimol Tanadumrongsak says:

    สวัสดีค่ะ สนใจไปเรียนต่อปีหน้านี้ 2022 หลักสูตร International/ Global MBA ที่จีนค่ะ อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากพี่ๆ คนไทยที่เคยไปเรียนกันค่ะ เราจบ BBA ที่จุฬามา ประสบการณ์ทำงาน 3 ปีกว่า ทำงานด้าน consult มา และตอนนี้ได้เปิดบริษัท ทำแบรนด์รองเท้าของตัวเองค้า (entreprenuer)

    หลักๆเลย อยากขอคำปรึกษาว่าพวก program ที่สนใจในจีนเหล่านี้ที่วางแผนจะยื่น มัน competitive มากเหมือนพวกใน US ไหมคะ เห็นเพื่อนๆหลายคนที่ apply ที่ US พวก Ivy ต้องใช้พวก consult service ที่ช่วยเขียน essay build profile แบบแพงๆ หลายแสน เราเองไม่มั่นใจเลยว่าที่จีน มัน competitive ขนาดนั้นไหม ที่ต้องดู standout เลยอยากจะทราบหลักในการรับของแต่ละอันคะ ว่ามัน long-shot ขนาดไหนเพื่อที่จะเตรียมตัวถูก
    1.Tsinghua – MIT Global MBA
    2. Fudan – MIT International MBA
    3. Peking University – UCL International MBA (BIMBA)
    4. Peking University Guanghua MBA
    5. Shanghai Jiaotong International MBA

    คะแนน GMAT เราไม่ได้สูงมาก 630 แต่เท่าที่ดูมา 5 programs ที่ดูไว้ Avg. อยุ่ที่ประมาณ 650
    ถ้าพี่ๆคนไหนพอจะช่วยตอบเราได้ จะช่วยเราตัดสินใจได้มากเลยค่ะ ว่าจะต้องจ่ายเงินแพงๆ ไหม หรือแค่ใช้คนช่วย polish essay ให้สวยงามพอ ไม่ต้องถึงกับสร้าง profileให้ดูว้าว เหมือนฝั่งUS

Leave a comment

Archives

Blog Stats

  • 359,160 hits