ความสำเร็จ มาจากอะไร ?

10

November 14, 2009 by Lin

ความเข้าใจของคนโดยทั่วไป ว่าคนที่ประสบสำเร็จนั้น ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีของโลก ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ เกิดขึ้นจากความพยายาม ไต่เต้า ด้วยแรงบันดาลใจ ความมุ่งมั่น และเริ่มต้นจาก”ศูนย์” หรือเสื่อผืนหมอนใบนั้น อาจจะเป็นการสรุปที่ง่าย และเป็นความเข้าใจผิดหนึ่งที่ยังคงติดในสังคมทุกยุคทุกสมัย

แต่นักสังคมวิทยาสมัยใหม่ กลับมองภาพนี้ต่างกัน และนิยามความสำเร็จนั่นคือผลลัพท์ของการสะสมความได้เปรียบ ที่เรียกว่า Matthew Effect

หากศึกษาลงไปในประวัติลึก ๆ ของผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา นักธุรกิจ สิ่งที่เราไม่ค่อยได้รู้นัก คือบุคคลกลุ่มนี้ มิได้เป็นโมเดลที่สมบูรณ์แบบที่เราสามารถเลียนแบบได้ง่าย ๆ แค่อาศัยความพยายาม หรือทฤษฎีต่าง ๆ ในหนังสือ Know how

ใครจะรู้ว่าบิลเกตเป็นลูกในครอบครัวคนมีอันจะกิน ได้เข้าโรงเรียนที่ในไม่กี่โรงเรียนในสหรัฐยุคนั้นที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรม ทำให้เค้าได้มีโอกาสได้จับคอมพิวเตอร์ก่อนเด็ก ๆ ในช่วงนั้น และความบังเอิญหลาย ๆ อย่าง ทำให้บิล สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์เมนเฟรมได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งเหมือนถูกล็อตเตอรี่ที่มีไม่กี่ใบให้กับเด็กที่วัยเดียวกับเค้า

เพราะสิ่งที่นักสังคมวิทยาค้นพบคือ ความได้เปรียบเพียงแต่เล็กน้อย ในช่วงเริ่มต้น นำมาซึ่งโอกาสที่มากกว่า และสร้างความแตกต่างที่ใหญ่มากในเวลาถัดมา

ถ้าคุณสังเกต มหาเศรษฐียุคเก่าที่ติดอันดับโลกตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็น ร็อกกี้เฟลเลอร์ คาร์เนกี้ เจพี มอร์แกน ต่างเกิดในช่วง 1830s ทั้งสิ้น เพราะช่วง 1860s เกิดการปฏิวัติเศรษฐกิจของอเมริกา ที่จะช่วยให้คนกลุ่มนี้มีอายุเหมาะสมที่จะตักตวงความได้เปรียบก่อนคนอื่น

ไม่ต่างกับเศรษฐียุคใหม่อย่างสตีฟ จ๊อป บิล ฮิวเลต บิลจอย ที่เกิดในช่วง 1950s ที่ได้ประโยชน์จากการเกิดของ PC (Personal Computer) ในช่วง 1970s เป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนั้นยังมีกฎ 10,000 ชม.ในหนังสือ Outliers ที่บอกว่าพรแสวงสำคัญไม่แพ้ หรืออาจจะมากกว่าพรสวรรค์ด้วยซ้ำ ทุก ๆ ความสำเร็จนั้น จะต้องเกิดจากการสร้างความชำนาญ ที่จะต้องฝึกฝนอย่างน้อย 10,000 ชม. ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่บังเอิญอย่างประหลาดว่า นักตนตรีอย่างวง The Beatle ก็เกิดขึ้นจากการฝึกฝนอย่างหนักกว่าคนอื่น ระหว่างที่ไปเล่นดนตรีตามร้านอาหารในฮัมบูรก์ คนในทุก ๆ วงการที่ประสบความสำเร็จ ต่างก็ผ่าน 10,000 ชม.นี้ โดยรู้ตัวและไม่รู้ตัวทั้งสิ้น

โมซาร์ตอาจจะแต่งเพลงได้ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ แต่คอนแชร์โตที่มีชื่อเสียงและเป็นมาสเตอร์พีซของเค้า ก็ถูกแต่งขึ้นหลังจากที่โมซาร์ตแต่งเพลงนับไม่ถ้วนเป็นเวลาเกือบสิบปี

เทียบเคียงกับการลงทุนแล้ว ผมอ่านหนังสือในการลงทุนไทยในยุค 2530 พบหลักฐานที่ดีพอ ที่อธิบายทฤษฎีเบื้องต้นได้ง่าย ๆ

การลงทุนในอดีต มีการซื้อขายเร็วมาก ทำให้โอกาสแพ้และชนะใกล้เคียงกัน ประกอบกับการลงทุนที่ปราศจากวินัย ทำให้นักลงทุนในอดีตมีโอกาสไม่นานพอที่จะอยู่รอดและลงทุน จนเก็บชั่วโมงครบ 10,000 ชม. เพราะแม้แต่บัฟเฟตหรือโซรอส ก็ผ่านช่วงเก็บชั่วโมงอย่างไม่มีข้อยกเว้น การลงทุนระดับสุดยอดอย่างการซื้อบริษัทโค้ก ก็เกิดขึ้นหลังจากบัฟเฟตเริ่มลงทุนนับสิบปี บัฟเฟตพูดถึงกฎที่สำคัญที่สุดกฎหนึ่งเสมอว่า อย่าขาดทุน ก็เพื่อความอยู่รอด จนเราสามารถฝึกทักษะได้จนชำนาญ

อีกประเด็นหนึ่งคือ มีคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีโอกาสเห็นแนวทางการลงทุนในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแนวเทคนิค การลงทุนพื้นฐาน การลงทุนเน้นคุณค่า เข้าสู่ตลาดที่เหมาะสม ในช่วงเวลาที่เหมาะสมมากคือปี 2540 ที่ตลาดกำลัง crash หนัก

ความได้เปรียบเล็ก ๆ แค่นี้ สร้างความแตกต่างอย่างมากในเวลาถัดมา

ผมจะสรุปบทความที่พยายามย่อมาให้ฟังว่า จงอยู่ให้รอดในตลาด และเก็บชั่วโมงในการลงทุนให้ครบ 10,000 ชม. ส่วนโอกาสอื่น ๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่นั้น ต้องพยายามแสวงหาอยู่เสมอ เพราะมันสร้างความได้เปรียบให้คุณในระยะยาว สุดท้ายแข่งอะไรก็ได้จงอย่าแข่งวาสนา แล้วคุณก็จะอยู่รอดในการลงทุน ประสบความสำเร็จ และมีความชีวิตการลงทุนที่ดี

10 thoughts on “ความสำเร็จ มาจากอะไร ?

  1. เป็นบทความที่ดีครับ ชอบแต่ขอเสริมอีกนิดอย่างนี้ว่า บทความนี้จะสมบุรณ์ยิ่งขึ้นไปต้องประกอบด้วย อีก สาม สิ่งนี้ จึงจะ k ยิ่งๆขึ้นไปอีก

    ถ้าคุณเริ่มต้นมันได้ คุณก็ทำให้มันสำเร็จได้
    If you can get started, you can accomplish it.
    โอวาทพระสุธรรมยานเถร / The Sermons of Phra Sudharmayanathera

    เกิดเป็นคนควรพยายามไปจนกว่าจะสำเร็จ
    A human we must strive on until we reach our goal.
    วิโรจนอสุรินทสูตร / Virojana-asurindasutra

    ทำเรื่อยไปไม่ท้อถอย ผลประสงค์จะสำเร็จสมหมาย
    Forever onward, with out despair, success is close at hard.
    เตสกุณชาดก / Tesakunjataka

    ผมเก็บชั่วโมงครบแล้ว(ในภาพรวม (แต่ต้องเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย เรียกว่าช่วงเก็บงาน) แต่บังเอิญเป็นวิชาที่ครอบจัุกรวาล เลยไม่ต้องเสียเวลาทั้งชีวิตที่เหลือไปนับ 1 ในหลายๆศาสตร์ที่ยังแค่คิดว่าจะทำ

    ตืิดตามอยู่ตลอดครับ

  2. เป็นบทความที่ดีครับ ชอบแต่ขอเสริมอีกนิดอย่างนี้ว่า บทความนี้จะสมบุรณ์ยิ่งขึ้นไปต้องประกอบด้วย อีก สาม สิ่งนี้ จึงจะ k ยิ่งๆขึ้นไปอีก

    ถ้าคุณเริ่มต้นมันได้ คุณก็ทำให้มันสำเร็จได้
    If you can get started, you can accomplish it.
    โอวาทพระสุธรรมยานเถร / The Sermons of Phra Sudharmayanathera

    เกิดเป็นคนควรพยายามไปจนกว่าจะสำเร็จ
    A human we must strive on until we reach our goal.
    วิโรจนอสุรินทสูตร / Virojana-asurindasutra

    ทำเรื่อยไปไม่ท้อถอย ผลประสงค์จะสำเร็จสมหมาย
    Forever onward, with out despair, success is close at hard.
    เตสกุณชาดก / Tesakunjataka

    ผมเก็บชั่วโมงครบแล้ว (ในภาพรวม แต่ต้องเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย เรียกว่าช่วงเก็บงาน) แต่บังเอิญเป็นวิชาที่ครอบจัุกรวาล เลยไม่ต้องเสียเวลาทั้งชีวิตที่เหลือไปนับ 1 ในหลายๆศาสตร์ที่ยังแค่คิดว่าจะทำ หรือ อยากทำ แต่คงไม่มีเวลาทำ

  3. Verapong says:

    ชอบไปอ่านที่ blog เรื่องธรรมะเหมือนกันครับ ความเห็นที่แนะนำเพิ่มเข้ามาก็ดีมากครับ และยินดีด้วยที่เก็บชั่วโมงครบแล้ว 🙂

    สูตรความสำเร็จผมก็ว่าไม่ตายตัว แม้จะเหมือน ๆ กันบ้าง อีกทั้งรายละเอียดก็มีอยู่หลาย ๆ ข้อ อยากฟังคนแชร์หลาย ๆ คนเหมือนกัน

    ผมเห็น blog พี่สุมาอี้พูดเรื่องจีน ก็อยากจะยกตัวอย่างประกอบเรื่องนี้ว่าจักรพรรดิจีนที่ยิ่งใหญ่ ส่วนมากจะมาจากชาวนา ทำให้คนทั่วไปมี implication ว่า คนสำเร็จต้องลำบากมาก่อน ถึงจะยิ่งใหญ่ได้ ถูกแค่ส่วนหนึ่งครับ

    แต่ถ้าคิดดี ๆ จากตัวอย่างนี้ คือการที่มาจากชาวนาทำให้เข้าใจคนรากหญ้า ทำให้ได้ใจจากประชาชน ประชาชนเหมือนน้ำที่พาให้เรือลอยได้ และจมได้ ความได้เปรียบน้อย ๆ ระดับหมู่บ้านก็เพิ่มทวีเป็นระดับประเทศ จนทำให้ล้มราชบัญลังค์ของฮ่องเต้ที่มีทหารอยู่ในมือ

    ตัวอย่าง อย่างจักรพรรดิเฉียนหลงก็ไม่ได้มาจากชาวนา เกิดเป็นกษัตริย์ แต่ใช้ความได้เปรียบ ประกอบทศพิธราชธรรม จนชนะใจประชาชน และเป็นหนึ่งในฮ่องเต้สุดยอดของคนจีน โดยไม่ได้มีชีวิตที่ลำบากมาก่อนเลย

    บทความที่ผมเขียน ก็ตั้งใจจะสื่อข้อความแค่ส่วนนี้ล่ะครับ

  4. จริงๆ แล้ว ชาติกำเนิดนั้นไม่เกี่ยวกับที่มาของความสำเร็จเลยสักนิดครับ เพียงแต่ว่า ถ้ามีภูมิหลังที่ลำบากจะดูมีสีสรร และโลดโผนกว่า คนที่เรื่อยๆมาเรียงๆ เท่านั้น
    คุณสุมาอี้เห็นแอบไปถามหนังสือที่ อีก blog แต่อ่านเร็วมาก และสรุปได้เป็น มหาภาคโยงกับ เศรษฐกิจการเมืองได้ดี คนทำงี้ได้ต้องมีประสบการณ์ มุมมองโลกที่ตกผลึก และฝึกฝนตลอดจึงจะกล้าเขียน ได้ครับ แต่ทุกคนที่มี blog ก็มีแววเป็นนักเขียนทั้งนั้น
    ขอบคุณครับ การเก็บชั่วโมง เหมือนการว่ายน้ำโดยไม่เห็นฝั่งของ พระมหาชนก เราไม่รู้หรอกว่า ชั่วโมงใหนจะครบ จนกระทั้ง มันเกิดความสำเร็จ แล้วย้อนกลับไปนับชั่วโมง เลยประมาณเป็นตัวเลขได้คราวๆ ผมกำลังเก็บชั่วโมงภาษาอังกฤษอยู่ เก็บมานานมากตั้งแต่ 18-19 ปี เพิ่งมาตกผลึก เริ่มง่าย ขึ้นบ้าง สำคัญอย่าเลิก นานไม่เป็นไร แต่ต้องมีเป้าตามสภาพแต่ละคน แต่ละอย่างของผมกว่าจะเห็นผล 10 ปีขึ้นทั้งนั้นเรื่องภาษาก็ใช่ 10000 ชัึ่วโมงคงค่าเฉลี่ีย กลางๆคนทั่วไป แต่สำหรับบางคนที่มีอุปสรรคมากหน่อยนึง ก็อาจไม่ต่อเนื่ีองได้

  5. Dekisugi says:

    “ผมผ่านมาเยอะ เจ็บมาเยอะ…” อิอิ

    ประสบการณ์ขาดทุนหุ้น เป็นส่วนหนึ่งของส่วนผสม ที่จำเป็นสำหรับการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จด้วยครับ

  6. หุ้ย ท่านโจ๊ก มีเจ็บด้วยหรอครับ ไม่น่านะ

  7. Verapong says:

    ต้องเรียกว่าสี่เท้ายังรู้พลาดครับ

    เรื่องหุ้นนี่ต้องฝึกอีกเยอะเหมือนกันครับ เพราะตอนนี้มีแค่สองเท้า 555

    ตอนนี้ผมกลัวอยู่อย่างเดียว ฝึก ๆ ไปแล้ว สิบปี บอกว่าตำราที่ใช้ผิด ไม่ใช่เก้าอิม จินเก็ง ของจริง ยุ่งเลย

  8. ขอบคุณครับ ผมเพิ่งไปเจอบทความที่พูดถึงเรื่อง ความสำเร็จ 10000 ชั่วโมง เลยตามๆมาอ่านดูว่ามันคืออะไร … เข้าใจอะไรขึ้นอีกมากมายครับ ขอบคุณมากๆ

  9. Undeniably imagine that which you stated. Your favourite reason
    appeared to be at the web the easiest factor to understand of.
    I say to you, I definitely get annoyed while other folks consider
    worries that they just do not know about. You controlled to hit the nail upon the highest and also
    defined out the whole thing without having side effect ,
    other people could take a signal. Will likely be back to get more.
    Thanks

Leave a comment

Archives

Blog Stats

  • 359,160 hits